วางดอกไม้ไว้อาลัยที่ “อิแทวอน” ยอดตายเพิ่มเป็น 154 คน
ชาวเกาหลีใต้ร่วมไว้อาลัยให้กับผู้ตายจากโศกนาฏกรรมที่อิแทวอน ล่าสุดมีรายงานตัวเลขผู้ตาย 154 คน โดยเป็นคนต่างชาติ 26 คน
วันนี้ (31 ต.ค.2565) ชาวเกาหลีใต้จำนวนมากวางดอกไม้ไว้อาลัยผู้ตายจากเหตุการณ์ที่อิแทวอน ขณะที่ทางการจะจัดพื้นที่สำหรับไว้อาลัยเหตุโศกนาฏกรรมครั้งนี้ในใจกลางเมืองโซล
ยุน ซอก-ยอล ผู้นำเกาหลีใต้ ระบุว่า สิ่งจำเป็นที่สุดเป็นการสอบสวนหาสาเหตุของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น และเน้นย้ำให้ความใส่ใจกับการระบุอัตลักษณ์ผู้ตายเป็นอันดับแรก
สำนักข่าว The Korea Times รายงานว่า เจ้าหน้าที่ยืนยันว่าบัดนี้มีผู้ตาย 154 คนและบาดเจ็บอีก 133 คน
โดยผู้ป่วยบางส่วนอยู่ในอาการสาหัส สำหรับผู้ตายมีคนต่างประเทศ 26 คนจากจีน อิหร่าน รัสเซีย สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส เวียดนาม อุซเบกิสถาน นอร์เวย์ คาซัคสถาน ศรีลังกา ไทย ออสเตรีย และอีก 2 ประเทศ
ขณะที่มีรายงานว่า งานปาร์ตี้ที่อิแทวอนในคืนเกิดเหตุ ไม่มีมาตรการจำกัดปริมาณคน ซึ่งเป็นปีแรกที่งานฉลองฮาโลวีนจัดขึ้นโดยปราศจากมาตรการควบคุมการระบาดของโควิด-19
ที่ผ่านมาช่วงเดือน พ.ค.2020 ทางการเกาหลีใต้สั่งปิดสถานบันเทิงในบริเวณอิแทวอน ภายหลังพบว่ามีคนติดโควิด-19 นับร้อยคนมีประวัติเดินทางมาท่องเที่ยวที่นี่ จนบรรยากาศในบริเวณอิแทวอนเงียบเหงาไปพักใหญ่
กระทั่งปี 2022 มีการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรค จึงมีนักท่องเที่ยวมากันนับแสนคน โดยกระทรวงมหาดไทยเกาหลีใต้ ระบุว่า เจ้าหน้าที่ไม่ได้คาดรู้สึกว่าจะมีคนมาที่อิแทวอนมากขนาดนี้ แต่คาดว่าบรรยากาศไม่ต่างอะไรจากปีที่ผ่านๆมา
ยิ่งไปกว่านี้มีเสียงวิภาควิจารณ์เกี่ยวกับกำลังตำรวจปริมาณมากของกรุงโซล ไปปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่อีกฟากฝั่งหนึ่งของเมือง แถบควังฮวามุน
ไม่ไกลจากทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ซึ่งมีการรวมกันประท้วง
เอกสารที่เผยแพร่ 2 วันก่อนเกิดเหตุ ตำรวจในกรุงโซลระบุว่าจะส่งเจ้าหน้าที่ 200 นายไปดูแลกิจกรรมวันฮาโลวีนที่อิแทวอน ส่งผลให้เกิดเสียงติชมว่าขาดการวางแผนของเจ้าหน้าที่
ขณะที่อาจารย์ผู้ที่มีความชำนาญจากมหาวิทยาลัยการคมนาคมแห่งชาติเกาหลี ระบุว่า ภัยพิบัตินี้เป็นฝีมือมนุษย์ที่เกิดจากการขาดการระมัดระวังด้านความปลอดภัย และทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ รวมทั้งกิจการร้านขายของในอิแทวอน ควรจะเตรียมพร้อมจัดการกลุ่มคนให้ได้ดีมากยิ่งกว่านี้
ด้านพรรครัฐบาลและพรรคฝ่ายค้านเกาหลีใต้ จัดการประชุมฉุกเฉินเมื่อวันที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา เพื่อจัดการผลพวงจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และหารือถึงกระบวนการไต่สวนต้นเหตุของโศกนาฏกรรม พร้อมทั้งเน้นการเร่งกำหนดอัตลักษณ์ผู้ตายให้ได้โดยด่วนที่สุด
สำหรับเหตุโศกนาฏกรรมจากการแออัดกันจนขาดอากาศหายใจ หรือเหยียบกันจนเสียชีวิตในครั้งนี้ นับว่าเป็นเหตุที่ร้ายแรงที่สุดในเมืองหลวงของประเทศ นับตั้งแต่ห้างสรรพสินค้า Sampoong ถล่มในปี 1995 ทำให้มีผู้ตาย 502 คนและบาดเจ็บ 937 คน